[Review] Rage (X360,PS3,PC) นอกกระแสแต่อย่ามองข้าม

[Review] Rage

platform : X360,PS3,PC
genre : post-apocalypse fps-rpg

เชื่อว่าหลายๆท่านคงได้เห็นเกม Rage จาก id software เจ้าของผลงานเกม shooter ชื่อดังอย่าง Doom และ Quake ที่จับมือกับ Bathesda เจ้าของผลงาน Fallout3 ออกมาได้สักพักโดยติดป้ายแปะไว้ว่า RPG (Role Playing Game) และต้องมีหลายคนคิดผิดหวังกับเกมนี้เพราะนึกว่ามันจะ ก๊อปปี้แล้วเพสด์รูปแบบและความสนุกสนานอย่างที่เคยสัมผัสมาจาก Borderland ถ้าใครที่กำลังจะมองข้ามเกมนี้ไปและแต่พอมีเวลา ก็สนใจบทความเล็กๆนี้นิดนึงนะครับ เพราะคุณอาจจะพลาดของดีไปก็ได้ใครจะไปรู้

 ตัวเกมจะเป็นเรื่องราวของโลกหลังหายนะ (Post-Apocalypse) หลังจากอุกาบาตขนาดยักษ์พุ่งชนและกวาดล้างเกือบทุกสิ่งออกจากพื้นแผ่นดิน โดยที่คุณจะได้เล่นเป็นหนึ่งในผู้ร่วมโครงการ (และผู้รอดชีวิตเพียงคนเดียว)ของ Ark Project หรือโปรเจคที่แช่เหล่าบุคคลที่มีความสามารถเพื่อจะสร้างโลกใหม่ให้กับมนุษย์ชาติในวันข้างหน้า ซึ่งตื่นขึ้นจาก Ark (cryo capsule) และต้องเผชิญกับโลกร้างที่เริ่มก่อตั้งขึ้นใหม่พร้อมกับหลายๆสิ่งที่เปลี่ยนไปในทางที่มันไม่ควรจะเป็นจากกลุ่มที่เรียกตนเองว่า The Authority ซึ่งพวกเค้าก็ตามล่ามนุษย์ที่รอดชีวิตจาก Ark Project เช่นกันและเป็นผู้อยู่เบื้องหลังสัตว์ร้ายกลายพันธุ์

ต่างๆก็เป็นได้

                สิ่งที่บางคนน่าจะทราบอยู่และบางท่านอาจจะไม่กระจ่าง เกมนี้เป็นเกมที่มีโหมดการเล่นเนื้อเรื่องอยู่ 3 แบบ โดยมีทั้ง SinglePlayer (SP) และ Legend of the Wasteland (ขอเรียกสั้นๆ Co-op) กับ RoadRage ที่เป็นโหมด Multiplayer  ก็จริงอยู่แต่ว่าเกมจะแยกโหมด SP และ Co-op ออกจากกันอย่างสิ้นเชิง นั่นก็คือโหมดเนื้อเรื่องหลัก (SP) คุณจะไม่สามารถให้เพื่อนโดดมาร่วมวงช่วยกันเล่นออนไลน์ได้เลย แต่หากเป็นโหมด Co-op ซึ่งก็ยังได้แยกออกเป็น Map ช่วยกันเล่นไปเป็นด่านๆโดยเล่นได้สูงสุด 2 คนทั้งแบ่งจอและออนไลน์ และโหมด RoadRage ที่เป็น Multiplayer จริงๆซึ่งต่างออกไปจาก 2 โหมดก่อนหน้าอย่างสิ้นเชิง

                เกมเพลย์ในโหมด SinglePlayer ถ้าหากใครเคยสัมผัสเกมอย่าง Doom 3 หรือ Quake มาบ้างแล้วน่าจะนึกภาพออกไม่ยากเย็น แต่ถ้าไม่ก็ลองให้นึกถึงเกมเดินยิงเน้นความฉับไวในการรบและหลบหลีกแบบคลาสสิคกึ่งๆ old-school โดยตัวเกมเป็นเกมเดินหน้ายิงมุมมองบุคลลที่ 1 ที่ใส่องค์ประกอบของความเป็น RPG เข้าไปอย่างการเก็บหาไอเท็ม,รับเควส(mission) ,ซื้อขายของ ,อัปเกรตปืนและสร้างไอเท็ม/อาวุธจากชิ้นส่วนที่หาได้ ตรงจุดนี้ต้องยกให้ Bathesda เลยแหล่ะเพราะมันได้อารมณ์ในแบบ Fallout เด๊ะๆ ไม่ว่าจะฉากและองค์ประกอบต่างๆจัดวางมาทำให้เอต่อการค้นหาจริงๆ ถึงแม้ส่วนใหญ่จะเป็นในอาคารก็เถอะนะ ในส่วนของ “เควส” ภายในเกมจะมีเควสเนื้อเรื่องกับเควสย่อย แน่อยู่ที่เควสเนื้อเรื่องจะเป็นเควสที่จำเป็นต้องทำแต่เควสย่อยที่คุณจะได้รับจาก “Job Board” หรือผู้คนในเมืองก็ใช่ว่าจะควรมองข้ามเพราะผลตอบแทนก็มักจะเป็นเงิน (หรือไม่ก็อัปเกรตในบางสถานการณ์) สำหรับใช้นำไปซื้ออัปเกรตอาวุธ กระสุนและเกราะของคุณนั่นเอง อ่อ..เงินเป็นสิ่งที่จำเป็นมากถ้าหากคุณเป็นพวกชอบสาดกระสุนแบบไม่เกรงใจใครหน่ะนะ เพราะมันจะหมดไวมากโดนเฉพาะกระสุนพิเศษทั้งหลาย (อาวุธบางชนิดมีกระสุน 4 ประเภทเลยเชียว และบางชนิดหาซื้อไม่ได้ต้องสร้างเองแถมชิ้นส่วนราคาก็ไม่ธรรมดานัก) และยังราคาแพงเอาการเพราะซื้อทีไม่ใช่น้อยๆ ในส่วนของภารกิจ “เควส”ที่เราได้รับ คงไม่ผิดที่จะต้องบอกว่าทาง id software วางเกมมาได้ดีและคุ้มค่าต่อการออกแบบฉากจริงๆ เพราะเกือบทุกภารกิจนอกจากเกมจะให้คุณขับรถไปตรงนั้นตรงนี้แล้วมันก็มักจะพาคุณกลับมาสถานที่เดิมๆ “อีกครั้ง” แต่จะเป็นเหมือนการเดินทางย้อนศรของรอบแรกที่ผู้เล่นผ่านเข้ามาและอาศัยเส้นทางกึ่งคู่ขนาดหรือเส้นทางที่ผู้เล่นไปไม่ได้ในหนแรกพร้อมเปลี่ยนบรรยากาศและศัตรูที่ในพื้นที่ซึ่งช่วยลดความจำเจลงไปได้เยอะพอดูเลยทีเดียว (ฉากเดิมแต่ยังสนุกเท่าเดิม..) นอกจากการเดินด้วยเท้า เวลาประมาณ 15-20% ในเกมนี้คุณจะใช้เวลาเดินทางด้วยยานพาหนะของคุณด้วยนะ ซึ่งระหว่างที่คุณไปในแต่ละสถานที่ก็จะมีศัตรูออกมาไล่ต้อน โจมตีเป็นช่วงๆไป โดยที่คุณเองก็สามารถกำจัดพวกมันเพื่อแลกคับค่าตอบแทนด้วยเช่นกัน

                นอกจากที่คุณจะได้ขับรถไล่ยิงศัตรู ,เดินเตร่ไปตามเขตชุมชนไปกับสภาพแวดล้อมที่ดูมีชีวิตชีวา นำของ(ขยะ)ที่เก็บได้มาขาย อัปเกรตอาวุธและเล่น “มินิเกม” ทอยเต๋าโฮโลแกรม 3 มิติแล้ว กิจกรรมที่เจ๋งๆอีกอย่างที่เสริมเข้ามาใน Rage ก็คือการแข่งรถแบบ wasteland นั่นเอง การแข่งรถในเกมนี้มีอยู่ย่อยๆ 3-4 โหมดอย่างแรลลี่ติดอาวุธ หรือจับเวลา ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับรถแต่ละประเภทที่ใช้ และเมื่อชนะในการแข่งนอกจากสนามใหม่ๆที่จะเปิดให้เข้าแข่งแล้วคุณยังจะได้แต้มสำหรับนำไปซื้ออัปเกรตให้ยานพาหนะอย่างพวกเกราะ อาวุธ เทอโบ ไม่ก็ล้อหนามได้ด้วยและถ้าคุณแข่งได้มากพอพร้อมกับเล่นไปถึงจุดๆหนึ่งของเนื้อเรื่องคุณก็มีโอกาสที่จะแข่งชิงรถคู่แข่งได้ด้วยนะเอ้อ..

                ทางฝั่ง Multiplayer ผมจะขอแยกเป็น 2 ส่วนตามที่บอกไว้ตอนต้นก็คือ Co-opที่เรียกกว่า Legend of the Wasteland กับ RoadRage  ในโหมด Co-op คุณสามารถที่จะเลือกเล่นได้ไม่ว่าจะออนไลน์หรือแบ่งจอไปกับ Map ที่อ้างอิงสภาพแวดล้มคล้ายๆกันกับในเกมหลัก แต่ไม่เหมือนกันซะทีเดียวนะ เนื้อเรื่องในโหมดนี้ถ้าสังเกตดีๆแล้วมันจะเป็นเรื่องที่ถูกบอกเล่าผ่านจาก npc ในเกมนั่นเอง อย่างตอนที่ว่าคุณไปคุยกับคนๆหนึ่งเพื่อรับเควสในโหมด singleplayer แล้วเค้าให้อาวุธชนิดใหม่คุณมาใช้แถมทิ้งท้ายไว้ว่า “สงสัยอะดิว่าเอามาจากไหน” ก็นี่แหล่ะครับในโหมด Co-op คุณจะได้เล่นเป็นคนๆนั้นแล้วตลุยไปเอาเจ้าปืนที่ว่านั่นเอง  โหมดนี้จะว่าไปมันก็ไม่ต่างอะไรกับโหมดเล่นเดี่ยวนัก เพียงแค่คุณจะไม่สามารถสร้างไอเท็มได้และไม่มีฉากนอกอาคารให้ขับรถบี้กันเล่นก็เท่านั้นเอง แต่ข้อได้เปรียบของโหมดนี้ก็คือว่าถ้าหากคู่หูคุณโดนยิงคว่ำ คุณก็สามารถเข้าไปช่วยชีวิตได้หรือไม่ก็เล่น มินิเกม ปั้มหัวใจ (ใน singleplayer ก็มี) เองก็ได้เช่นกันแต่ระวังนะมันใช้ได้แค่คลละ 2 ครั้ง  ว่าไปก็เหมือนกับง่ายแต่จริงๆแล้วโหมดนี้อาศัยทีมเวิร์คอยู่พอสมควร คุณสามารถให้คนนึงล่อแล้วอีกคนนึงวิ่งไปตีขนาบข้างได้ด้วยแหล่ะ โดยเฉพาะถ้าคุณเล่นโหมด nightmare แล้วหล่ะก็นะ...ทีมเวิร์ค...  ถึงกับเจ็บปวดเลยถ้าตายคู่ เพราะมันไม่มี checkpoint ด้วยสิ  สำหรับ RoadRage นั่นไม่มีอะไรซับซ้อน มันเป็นโหมดสำหรับแข่งรถออนไลน์ 4 ผู้เล่นแบบเดียวกับ SinglePlayer โดยจะมีรูปแบบการเล่นเหมือนโหมดแรลลี่ติดอาวุธ ซึ่งผู้เล่นจะต้องเก็บแต้มโดยทำลายคู่แข่งหรือไม่ก็วิ่งไปยังจุดที่กำหนดก่อนที่เป้าหมายจะทำได้  แต่เป็นเรื่องที่น่าเสียดายที่น่าแปลกใจว่าทำไมเกมแบบนี้ดันมีโหมดแข่งรถแทนที่จะมีโหมดอย่าง Deathmatch โดยให้ผู้เล่นใช้คนไล่ยิงกัน แทนที่จะมีแค่ Roadrage มาอย่างเดียว..

                กับอาวุธและไอเท็มชุดใหญ่ๆ  การแข่งรถสไตล์ Wasteland   และการวาง Map ที่ไม่ใช่ก๊อปปี้แล้วแปะทั่วๆไปแบบ D...Age 2 แถมเสริมโทนบรรยากาศหลากหลายไม่จำเจ คราวนี้ก็ต้องมาดูที่ AI กันบ้าง... ในบางเกมผมเองเคยเห็นศัตรูที่หลบหลังที่กำบัง โดดไปมาตามสคริปก็เยอะอยู่ แต่จะโดดยังไงสอยให้ดับก็ไม่ถือว่ายากเลย(นอกจากโดดไวเว่อๆ..) แต่ใน Rage วิธีดังกล่าวนี้ถูกใช้ในแบบที่เรียกได้ว่าก้ำกึ่งอัปเกรตมาเลยทีเดียว เพราะศัตรูในเกมนี้โดยเฉพาะที่สู้ประชิดจะเลือกเข้าหาตัวคุณได้ทั้งตรงหรือไม่ก็อ้อม(และอาจจะโดดข้าม)สิ่งกีดขวางแต่มันไม่ได้วิ่งมาให้คุณยิงดับง่ายๆหรอกนะ เพราะพวกมันทำได้ทั้งวิ่ง ม้วนหน้า กลิ้งหลบ วิ่งไต่กำแพง หรือแม้แต่โหนราวยันปีนกำแพง เพื่อสร้างความยากลำบากต่อการเล็งก็ยังได้ไหนจะพวกที่ใช้ปืน ก็จะรู้จักกระหน่ำยิงและปาระเบิดมาใส่หัวคุณเพื่อไล่ให้ออกจากที่กำบัง กับตัวที่ถือโล่อย่างทหารของ Authority  ก็ใช่ย่อย รู้จักยืนกันให้เพื่อนหลบเพื่อยิงจากด้านหลังได้อีก รับรองได้เล่ยว่าเกมนี้ถ้าคุณชอบความท้าทายแล้วหล่ะก็โหมด hard และ nightmare จะทำให้คุณสนุกได้แน่ๆ

                ในตอนท้ายนี้จะขอพูดถึงเรื่องภาพกราฟิกกันบ้าง จากขุมพลัง id-tech 5 ที่นำมาใช้กับ Rage  โดยเจ้า id tech 5 ตัวนี้แม้การออกแบบของมันจะเอื้อต่อนักพัฒนาจากมากกว่าผู้เล่น ด้วยการที่นักพัฒนาไม่จำต้องห่วงเรื่องการอ๊อปติไมซ์และจัดการหน่วยความจำเพื่อโหลดเทคเจอร์กราฟฟิกให้วุ่นวาย แต่เรื่องนี้มันก็กระทบมายังผู้เล่นอยู่พอสมควรทั้งด้านที่ดีและด้อย  ในส่วนดีเกมนี้ไม่ว่าคุณจะอยู่สภาพแวดล้อมนอกอาคารที่เปิดกว้างและในอาคารที่เต็มไปด้วยบรรยากาศหลายๆแบบ จากที่ผมได้สัมผัสมาจะเห็นได้เลยว่าภาพทั้งแสงเงา วิวทิวทัศระยะไกล รวมถึงเอฟเฟ็กต่างๆไม่ว่าเราจะอยู่จุดไหนในแผนที่ และฉากจะกว้างขนาดไหนก็ตาม เกมก็ยังคงวิ่งอยู่ที่ 60 เฟรมต่อวินาทีไม่มีหด แต่ก็นะในส่วนที่แย่นั้น อาจจะเพราะข้อจำกัดของฮาร์ดแวร์ในตอนปลายยุคคอนโซลและการกินพื้นที่มากที่สุดในตอนนี้กว่า 20GB (DVD 2 แผ่นสำหรับเนื้อเรื่อง) สิ่งที่จะเห็นได้ชัดเลยก็ไม่พ้นเรื่องความสวยระยะกลาง-ไกลของเกม ก็เพราะว่าถ้าเข้าไปสังเกตวัตถุแต่ละชิ้นอย่างพวกถังน้ำมงน้ำมันบลาๆหรือลายหินดินทรายกันใกล้ๆจะเห็นได้เลยว่าทุกอย่างมันออกมามัวและเบลอนั่นเอง ซึ่งจะให้คิดเล่นๆมันสามารถออกมาดีได้ แต่ก็หมายความว่าคุณอาจจะต้องมีโหมดเนื้อเรื่องเป็น DVD ถึง 3 แผ่นกันเลยทีเดียว (สำหรับX360 ผู้ที่ไม่ install เกมลง HDD ระวังรอโหลดนานก้นแฉะเอาไว้)

                ด้วยรูปแบบการเล่น และสไตล์ของตัวเกม Shooter-RPG ที่ผสมกันได้เป็นอย่างดี (ถึงจะรู้สึกว่าเป็น Shooter ซะ 60% ก็นะ )เกมนี้เป็นอะไรที่ไม่ควรมองข้าม แต่หากเก็บพิจารณาไว้เป็นเกมเล่นแก้ขัดได้อย่างดีเลยหล่ะ เพราะความรู้สึกที่ได้จากเกมนี้มันแทบไม่ซ้ำใครแล้วยังเล่นได้เพลินมากๆทั้ง single กับ multi (co-op)  เสียดายที่มันไม่มีโหมดไล่ยิงกันเอง และอาจจะรู้ขาดความหลากขอยของพวกอาวุธกับอัปเกรดไปบ้างถ้าหากคุณชอบยัดของใส่ปืนกันเป็นชุดๆ เกมนี้มีให้อัปเกรตก็จริงแม้มันก็ไม่ได้มากมายชิงชัยเกมไหน แต่ที่แน่ๆเกมนี้ขึ้นสังเวียนใหญ่วัดกึ๋นเกมเพลย์และเทคโนโลยี (id-tech 5) ได้เลย

SCORE : 8.6/10

by Tananset J. 

base on xbox360 both singleplayer , local co-op


ทิ้งท้าย..  review อันนี้เขียนไว้ตั้งแต่ ตุลาคม แล้วแต่เนื่องจากเน็ตกาก เลย upload ไม่ได้ + ความขี้เกียจอีกหน่อยแล้วลืมด้วยเลยไม่ได้อัปสักที มันเป็นเกมที่โดนกระแสเกมอื่นกลบแล้วคนไม่ค่อยเล่นกันเท่าไร เกมมันสนุกเพลินพอดูเลยนะเออ ไม่หลอนเท่า Doom แต่ยิงมันส์พอกัน

ขอบคุณครับ