[Review] Warhammer 40,000 : Kill Team
"เพื่อองค์จักรพรรดิ์ของเจ้า จงอย่าให้ไอ้พวกตัวเขียวเหลือรอด!"
ก่อนที่เราจะได้ลิ้มลองกับ Warhammer 40K : Spacemarine อย่างเป็นเรื่องเป็นราวในช่วงต้นเดือนกันยาทาง THQ ก็ได้หยิบยื่นเกมเล็กๆที่เปรียบเสมือนของว่างเรียกน้ำย่อย เกมหนึ่งมาให้เราเล่นฆ่าเวลารอไปกับการแกว่งดาบ สาดกระสุน ใส่เจ้าพวกตัวเขียวหน้าตาทุเรศทุรังกันอย่างหน่ำใจไปกับ Warhammer 40K : Kill Team !!!
|
ถึงตัวจะเขียวแต่เลือดก็ยังแดง [เห็นชัดๆกันแบบ slow-mo ใน video ด้านล่าง ตรง 6:55] |
ตัวเกมเปิดเรื่องด้วยการตรวจพบยานรบขนาดยักษ์ของพวก ออร์ค ลำหนึ่งกำลังลี่ตรงเข้ามาสู่ดาว Forge World อันเป็นบ้านเกิดของเหล่า "สเปซมารีน" ซึ่งถ้าหากมันไปถึงแล้วหล่ะก็ สิ่งที่จะเกิดขึ้นนั้น ไม่จำเป็นต้องคิดให้ปวดสมองเลยเพราะชีวิตนับไม่ถ้วนจะเละเป็นขี้แน่ๆ แล้วนั่นก็เป็นสิ่งที่คุณ!ในนามของหน่วยทหารฝีมือฉกาจแห่งองค์จักรพรรดิ (ชื่ออย่างหล่อก็ Angel of Death ) ที่จำต้องเข้าสกัดยานขนาดมหึมาของพวกตัวเขียว เพื่อทำลายและสังหารหัวหน้าของพวกมันให้จงได้ (แล้วมันก็มีอยู่เท่านั้น)
|
เจ้า wierdboyz ตัวเขียวหน้าตาสุดแสนจะเป็นมิตร แต่ที่แน่ๆมันเป็นบอส lol |
W40K : KillTeam เป็นเกมแนว arcade shooter มุมมองบุคลลที่ 3 (และสลับเป็นมุมสูงในบางช่วง) ที่ได้นำเสนอโหมดการเล่นอยู่ 2 โหมดหลักประกอบไปด้วยโหมด Campaign และ Survival ซึ่งมีอยู่ด้วยกันโหมดละ 5 ด่านโดยในแต่ละโหมดนั้นผู้เล่นสามารถเลือกได้ว่าจะฉายเดี่ยว หรือแบบ co-op ช่วยกันเล่นก็ได้ แค่นี้อาจจะพอเรียกความสนใจได้บ้างแต่ยังก่อนครับ มันยังมีอะไรมากกว่านั้นสำหรับเกมขนาดเล็กที่คุณภาพไม่ได้เล็กตามตัวของมัน
|
เลือกคลาส , อาวุธและ เปิร์ค เสริมความเมพ |
ความโดดเด่นของเกมนี้อยู่ตรงที่คลาสตัวละครที่คุณจะได้เล่นทั้งหมด 4 คลาสซึ่งก็มี Librarian , Vanguard , Sternguard และ Techmarine ที่มีสไตล์การเล่นรวมไปดึงจุดเด่นจุดด้อยที่แตกต่างกันออกไป ผมจะขอหยิบยกตัวอย่างให้เห็นชัดขึ้นอย่าง Librarian กับ Sternguard จุดแข็งของตัวแรกนั้นอยู่ที่การต่อสู้ระยะประชิดด้วยการใช้ดาบฟาดฟันศัตรูที่ดาหน้าเข้ามา แต่จะเสียเปรียบถ้าหากไปต่อกรกับศัตรูที่ใช้ปืนเพราะคุณจะสามารถตอบโต้ด้วยปืนพกกำลังต่ำเท่านั้น ส่วนตัวหลังจะเป็นพลอาวุธหนักซึ่งจะชดเฉยข้อเสียของตัวแรกได้สบายๆ แต่ก็จะโดนยำเละได้ถ้าหากศัตรูบุกเข้ามาถึงตัวได้เช่นกัน ที่ว่ามานี้เป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้นเพราะนอกจากนี้แล้วตัวละครทั้ง 4 คลาสยังมีท่าไม้ตายที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวรวมไปถึงความสามารถที่จะอัปเกรตอาวุธ และ "เปิร์ค" เพิ่มค่าสถานะต่างๆที่ได้มาจากการปลดล็อคด้วยการทำคะแนนระหว่างเล่น แล้วสุดท้ายจะลืม "พาวเวอร์อัป" ที่มีให้เก็บระหว่างทางไปไม่ได้ ของพวกนี้เป็นสิ่งที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในสไตล์การเล่นที่คุณถนัดให้ดียิ่งขึ้นไป แล้วสำหรับการเล่นแบบ co-op บอกได้เลยว่า "พาวเวอร์อัป" มีผลต่อการเล่นของคุณกับเพื่อนอย่างเห็นได้ชัดเพราะถ้าหากนัดแนะกันไม่ดีแล้วเก็บสเปะสะปะด้วยหล่ะก็ ทั้งคู่อาจจะเข้าสู่สถานการณ์ผลัดกันกดช่วยชีวิต(แบบ GoW)แล้วไปเริ่มใหม่ที่ checkpoint ก็เป็นได้
|
คิดให้ดีว่าจะเก็บพาวเวอร์อัปอันไหนเมื่อไร / เพราะมันใช้ร่วมกันได้ถ้าอยู่ใกล้ |
|
เกมอยากให้จบไว้ก็จริง แต่ 4 นาทีนี่มันก็หินแล้วนะพี่น้อง |
ในส่วนของโหมด Survival เป็นโหมดเกมการเล่นในการเอาตัวรอดจากการโดนรุมทึ้งให้นานที่สุดซึ่งจะมีอยู่ด้วยกันทั้งสิ้น 5 ฉาก แต่ละฉากจะได้มาจากการปลดล็อคเมื่อเคลียร์ด่านของโหมด Campaign แต่มันจะต่างกันตรงที่ว่าโหมดนี้เกมจะกำหนดตัวละครที่ผู้เล่นใช้ ไม่ว่าจะเล่นเดี่ยวหรือ co-op กับเพื่อนก็ตามแต่ แล้วจะมี พาวเวอร์อัป โผล่มาให้ใช้จนถึงช่วงเวลาหนึ่งเท่านั้น หมดแล้วหมดเลย เหมือนกับว่าต้องการจะบีบให้จบเกมโดยไม่ให้เกิน 5-7 นาทียังไงอย่างงั้น แต่จากจำนวนศัตรูที่ออกมาช่วงนั้นบอกได้เลยว่าเยอะเกินพอ (ผมเล่นด่าน 2 ผมทำได้ 6:22นาที เป็นอันดับ 1 ของ Global Leaderboard อยู่ 30 นาทีแล้วปัจจุบันโดนถีบตกมาที่ 7 หรือต่ำกว่าแล้ว)
|
Tyranid! สู้กันตรงๆก็คงไม่รอด ...ฉะนั้นต้องโกยโลด |
ในด้านภาพกราฟิกของเกมถือว่าทำออกมาได้ดีโดยเฉพาะในเรื่องของรายละเอียดบนโมเดลตัวละครถึงมันจะไปเทียบกับเกมรุ่นใหญ่กว่าไม่ได้ แต่ในระดับน้ำหนักเกมรุ่นเดียวกันถือว่าทำออกมาไม่เลวทีเดียว เพียงแต่อาจจะรู้สึกว่างานบางส่วนอาจดูหยาบไปบ้าง อย่างเท็คเจอร์ทั่วๆไปของฉากและเอฟเฟคบางชิ้น ในเรื่องของเสียงก็เช่นกัน ดนตรีประกอบถ่ายทอดมาบ่งบอกถึงความเป็น Warhammer เอาไว้ได้อย่างชัดเจน แต่ในระหว่างเล่นนั้น ดูเหมือนว่าสิ่งเหล่านี้จะโดนกลบทับไปด้วยเสียงปืนและออร์คตายซะมากกว่า และในส่วนของการควบคุมนั้นไม่มีอะไรยุ่งยากเนื่องจากเกมไม่ต้องใช้ปุ่มอะไรมากมาย แต่เรื่องความแม่นยำอาจต้องใช้ความเคยชินสักนิด
|
การสู้บอสเกมนี้ก็ท้าทายนะเอ้อ |
โดยรวมแล้วเกมนี้เป็นเกมที่ทำออกมาได้ดีในระดับที่ "เกือบ" จะเข้าขั้นดีมาก เมื่อเทียบกับราคาค่าตัวของมันที่เป็นเกมดาวน์โหลดสำหรับเล่นฆ่าเวลา 3-4 ชั่วโมงและอาจจะมากกว่า เพราะการเลือกตัวละครเข้าเล่นในแต่ละด่านนั้น ความยากง่ายที่ออกมามันไม่เหมือนกัน ยิ่งไปกว่านั้นเกมนี้ให้ความสนุกกับการช่วยกันเล่นมากกว่าการเล่นคนเดียวอยู่พอตัว แม้ว่าฉากจะเดิมๆ แค่เพิ่มจำนวนศัตรูก็จริง แถมยังมีโหมด Survival สำหรับทดสอบฝีมือ พร้อมคอนเท้นท์ต่างๆให้ปลดล็อค แต่สิ่งที่น่าเสียดายก็คือเกมนี้ไม่มีโหมด online co-op ให้ได้เล่นกัน ยิ่งถ้าคุณเป็นสาวก W40K ด้วยอยู่แล้วกำลังมองหาของเรียกน้ำย่อยก่อนภาค Spacemarine จะออก เกมนี้ถือเป็นคำตอบที่ดีเลยทีเดียว
GameScore :
7.3 / 10
GOOD
+ตัวเกมเล่นได้หลายรูปแบบกับ 4 ตัวละครที่สไลต์การเล่นแตกต่างกัน
+การเล่นแบบ co-op สนุก / และแต่ละช่วงของด่านต่างๆจะเอื้อให้กับบาง class
+เพลงประกอบ และภาพกราฟิกโดยรวมแสดงออกมาถึงความเป็น warhammer
BAD
-ไม่มีโหมด online co-op
-การควบคุมเรื่องการเล็งยิงเหมือนจะไม่แม่นยำนัก, อาจจะต้องใช้ความเคยชิน
Written and Review By Tananset J. (Tananset360)
อันนี้เป็นคลิปเกมเพลย์ครับ ให้เห็นกันชัดๆไปเลยว่าตัวละครแต่ละตัวมันต่างมันเด่นกันยังไง
Gameplay 1 (Sternguard vet. และ Vanguard vet.)
Gameplay 2 (Techmarine กับ Librarian)